วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ประวัติองค์พ่อจตุคามรามเทพ ตอนที่ 1

ประวัติองค์พ่อจตุคามรามเทพ

ตอนที่ ๑

......ชื่อ ของท้าวจตุคามรามเทพ สิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมือง ผู้ดูแลคุ้มครอง พระบรมธาตุ ลูกหลานทะเลใต้ มีผู้ใหญ่กล่าวถึงเป็นคนแรกในวงการ คือ ท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งตามตำนานเล่าขานกันว่า ท่านท้าวจตุคามรามเทพ ยังมีอีกพระนามคือ พระเจ้าจันทรภาณุ ซึ่งเป็นอดีตบูรพกษัตริย์ ของกรุงตามพรลิงค์ หรือนครศรีธรรมราช เมืองสิบสองนักษัตร์
....คำแปลจารึกพระเจ้าจันทรภาณุ หลักที่ 24 ของศิลาจารึกพบที่วัดเสมาเมือง นครศรีธรรมราช ดังนี้
.."...สวัสดี พระผู้เป็นอิศวรในกรุงตามพรลิงค์(นครศรีธรรมราช) ทรงประพฤติเกื้อกูลแก่พระพุทธศาสนา เสมือนพระอินทร์ ทรงพระราชสมภพมา ในปทุมวงศ์ เพื่อยังประชาชนที่ถูกชนชาติต่ำช้า กดขี่ ปกครองมาช้านานแล้ว ให้สว่างรุ่งเรือง มีรูปงามเหมือนพระกามะอันมีรูปงามราวกับพระจันทร์ ทรงพระปรีชาในราชนิติ เทียบเท่ากับพระเจ้าธรรมาโศกเป็นอธิบดีแห่ง ปัญจาณวงศ
......ศรี สวัสดี พระองค์ผู้เข้มแข็ง ผู้เป็นอิศวรในกรุงตามพรลิงค์ ทรงอุปถัมภ์ ปทุมวงศ์ ได้รับขนานนามว่า ภืมเสน เสด็จมา เป็นบุญตัวของมนุษย์ ์ที่ได้มีพระราชาองค์นี้ เสด็จมาปกครอง พระองค์ ทรงไว้ซึ่งพระเกียรติแผ่ไปทั่วโลก เพียงดั่ง อานุภาพของพระอินทร์พระอาทิตย์ทรงพระนามว่า จันทรภาณุ ศรีธรรมราช ขออำนวยพร อันเป็นอมตะ ด้วยความภักดี ซึ่งเสมือนดังสลักไว้ในแผ่นหิน เมื่อปีกลียุคล่วงแล้วได้ 4332

.......องค์ จตุคามรามเทพมีความเกี่ยวพันกับอดีตบูรพกษัตริย์ของอาณาจักรศรีวิชัย โดยจตุคามรามเทพเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่มีพระนามว่า"พระเจ้า จันทรภาณุ" ผู้ทรงสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัย สถาปนาเมือง 12 นักษัตร หรือกรุงศรีธรรมาโศกราช พร้อมทั้งลงหลักปักฐานพระพุทธศาสนาอย่างถาวรบนแผ่นดินศรีวิชัย-สุวรรณภูมิ จนได้รับเทิดพระเกียรติให้เป็น “พญาศรีธรรมาโศกราช”

ตำนานของชนแถบทะเลใต้เกี่ยวกับ ประวัติตำนานขององค์จตุคามรามเทพ มีว่า

.......ตรรกวิทยา ของชาวชวากะ ที่เรียกว่า จตุคามศาสตร์ เชื่อกันว่า นางพญาจันทรา นางพญาพื้นเมือง ทะเลใต้ ราชินีผู้สูงศักดิ์ขององค์ราชันราตะ หรือ พระสุริยะเทพ ซึ่งรวบรวมดินแดนในคาบสมุทรทองคำ เข้าเป็นจักรวรรดิ์เดียวกัน ในพุทธศตวรรษ ที่ 7 พระราชมารดาของเจ้าชายรามเทพ บรรลุธรรม สำเร็จตรรกศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ ทรงอิทธิฤทธิ์บังคับคลื่นลมร้ายให้สงบได้ ชาวทะเลทั้งหลายกราบไหว้รำลึกถึง เมื่อออกกลางทะเล เรียกกันว่า แม่ย่านาง ชาวศรีวิชัยให้ความเคารพนับถือเทิดทูน ฉายานามว่า เจ้าแม่อยู่หัว

.......เจ้า ชายรามเทพได้ศึกษาเล่าเรียนวิชา จตุคามศาสตร์ จากพระราชมารดา จนเจนจบ แล้วทรงเรียนรู้หลักสัจธรรมทางพุทธศาสนา เลื่อมใสศรัทธานิกายมหายาน อย่างแรงกล้า มุ่งหน้าสร้างบารมี หวังตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์ ตั้งปณิธานแน่วแน ่ที่จะประกาศธรรม ให้มั่นคงทั่วดินแดนสุวรรณภูมิ ทรงอุตสาหะบากบั่น สร้างราชนาวีตามตรรกศาสตร์มหายาน ที่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมได้รวดเร็ว และปลอดภัยบรรทุก กำลังพลและสัมภาระได้ มากมายมหาศาลเยือนถึงน่านน้ำใด หลักศาสนา ศิลปอารยะธรรมประดิษฐานมั่นคง ณ ดินแดนนั้น จนเหล่าราชครูต่างถวาย นามาภิไธยราชฐานันดร ว่า องค์ราชันจตุคามรามเทพ
.......เมื่อ พระศรีมหาราชชาวชวากะได้ประกาศสัจธรรมทั่ว สุวรรณทวีปแล้วจึงได้สร้าง มหาสถูป เจดีย์ขึ้นที่หาดทรายแก้วชเลรอบ (บริเวณวัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช)

.......และ ในปลายพุทธศตวรรษที่ 8 องค์ราชันจตุคามรามเทพ ทรงมานะพยายาม จนบรรลุธรรม จนบรรลุโพธิญาณ จักรวาลพรหมโพธิสัตว์ ประกอบด้วย บุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ อภินิหาร สยบฟ้า สยบดินได้ตามปรารถนา วาจาเป็นประกาศิต เหนือมวลชีวิตทั้งหลาย ทรงศักดานุภาพเหมือน ดังพระอาทิตย์และ พระจันทร์ สมญานามตาม ศาสตร์จันทรภาณุ สาปแช่งศัตรูผู้ใดจะถึงกาลวินาศ จนเลื่องลือไปทั่วทวีป ได้รับการถวายนามยกย่องว่า พญาพังพกาฬ


.......การ ประกาศชัยชนะที่เด็ดขาดเหนือสุวรรณทวีป และหมู่เกาะทะเลใต้ นี้เปรียบได้กับมหาราชในชมภูทวีป ดังนั้น พญาโหราบรมครูช่างชาวชวากะ ได้จำลองรูปมหาบุรุษเป็น อนุสรณ์ ตามอุดมคติศิลปศาสตร์ศรีวิชัย เรียกว่า ร่างแปลงธรรม รูปสมมุติแห่ง เทวราช ที่มีตัวตนอยู่จริงในโลกมนุษย์ ทรงเครื่องราชขัติยาภรณ์ สี่กร สองเศียร พรั่งพร้อมด้วยเทพศาสตราวุธ เพื่อปกป้องอาณาจักรและพุทธจักร เพื่อเป็นคติธรรมและศิลปะกรรม ประดิษฐานในทุกหนแห่ง ในอาณาจักรทะเลใต้ ลูกหลานราชวงศ์ไศเลนทร์ในชั้นหลัง ได้ถ่ายทอดศิลปะศาสตร์แปลงร่างธรรมเป็น นารายณ์บรรทมสินธุ์บ้าง อวตารปราบอสูรบ้าง ตามค่านิยมของท้องถิ่น

ที่มา : http://www.jatukamramtap-nakhorn.com/menu/jatukhamstory.html

ไม่มีความคิดเห็น: