วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ประวัติองค์พ่อจตุคามรามเทพ ตอนที่ ๔ พล.ต.ต ขุนพันธรักษ์ราชเดช

ประวัติองค์พ่อจตุคามรามเทพ


ตอนที่ ๔ พล.ต.ต ขุนพันธรักษ์ราชเดช


......พล. ต.ต ขุนพันธรักษ์ราชเดช สมัยที่ท่านยังดำรงชีวิต ท่านเป็นบุคคลที่มีผู้คน ให้ความยอมรับนับถือ เป็นปูชนียบุคคล บุคคลที่เหล่าข้าราชการตำรวจยกย่อง ในความเก่งกาจเป็นมือปราบคนเก่งที่เป็นคนตรง ตงฉิน มีสัจจะรักษาวาจา และในวงการพุทธ วงการไสยเวทย์ ท่านได้ศึกษาจากสำนักเขาอ้อ(เมืองพัทลุง) ซึ่งเป็นตักสิลาของการศึกษาพุทธ-พระเวท ซึ่งรักษามาตั้งแต่โบราณ ท่านขุนพันธ์เป็นศิษย์ที่อยู่แถวหน้า สายเขาอ้อสายฆราวาส ณ สำนักเขาอ้อ ซึ่งมีทั้งสายพระ และสายฆราวาส
......ใน อดีตมีพราห์มที่เป็นสหายกัน ๔ ท่านได้ค้นหาสถานที่เพื่อเป็นที่บำเพ็ญธรรม ศึกษาพระเวท ดำเนินมาจนพบภูเขายอดหนึ่ง(เขาอ้อ)ที่เป็นสถานที่ทำเลเหมาะสม ณ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จึงก่อตั้งสำนักพราห์มขึ้น แล้วกาลเวลาไหลต่อเนื่อง มาจนพุทธศาสนาเข้ามาเป็นที่พึ่งของประชาชน ที่นี้จึงเปลี่ยนจากสำนักพราห์มเป็นวัด แต่ยังคงสืบทอดวิชาความรู้โบราณไว้จากรุ่นสู่รุ่น คือ การศึกษา วิชาอาคมไสยเวทย์ วิชาการหุงน้ำมันละหุ่ง การชุบน้ำว่าน การดูดาวโหราศาตร์ ฤกษ์ยาม ปลุกเสกของขลัง อักขระโบราณ.. ฯลฯ
......การ ที่พล.ต.ต ขุนพันธรักษ์ราชเดช เข้ามาร่วมช่วยพล.ต.ท.สรรเพชร ธรรมมาธิกุล สร้างหลักเมืองตามบัญชาเทวะ ขององค์พ่อจตุคามรามเทพ โดยการนำมวลสารส่วนใหญ่มาจากพระวัดท่าเรือ และรวมถึงการสร้างจตุคามรามเทพ รุ่นเจดีย์ราย ๔๕ ได้เป็นประธานพิธีกรรมสร้างรุ่นต่างๆ เช่นรุ่นบันดาลโชค เพื่อนำรายได้บูรณะวังโบราณลานสะกา และวัดนาสน เป็นต้น ท่านจึงมีความเกี่ยวพันกับองค์จตุคามรามเทพ

......การ เสียชีวิตของท่านเมื่ออายุได้ ๑๐๘ ปี และปรากฏภาพท่านห่มขาว หน้าโรงศพ ที่บรรจุร่างสังขารท่านเอง ปรากฏภาพท่านขุนพันธ์นั่งฟังธรรม อนุโมทนา ขณะถวายปัจจัยไทยธรรม ในคืนงานสวดอภิธรรม .เมื่อ ข่าวภาพนี้ออกสู่มวลชน จึงทำให้ผู้คนทั้งประเทศให้ความสนใจ และทำให้ผู้คน ที่ไม่เคยรู้จัก ท่านขุนพันธ์และวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ สนใจศึกษาประวัติความเป็นมา จนทำให้เป็นกระแสความสนใจ ศรัทธา ในประวัติความเป็นมา ในความประพฤติธรรม การเสียสละแก่สังคม การรักษาสัตย์ของกาย วาจา และจิตใจ

......ขุน พันธรักษ์ราชเดช เป็นปูชนียบุคคลที่สมควรยกย่อง และน่าที่จะสมควรนำมาเป็นแบบอย่างที่ดีอย่างแท้จริงในการดำรงชีวิตที่มี ความพอดี สำหรับผู้คนในยุคปัจจุบันเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสิ่งดีงามทางกาย ทางวาจาและใจ ให้หลีกพ้น จากการแปรเปลี่ยนของสภาพสังคม เศรษกิจ การเมือง ในยุคปัจจุบัน แต่กระนั้นความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็ตั้งอยู่บนรากฐานที่มีโครงสร้างแข็ง แกร่ง ที่มีมาช้านานของสยามประเทศ

ที่มา : http://www.jatukamramtap-nakhorn.com/menu/jatukhamstory2.html

ไม่มีความคิดเห็น: